- Regular price
- Sale price
- 3,112.00 ฿
- Regular price
- Sale price
- 3,112.00 ฿
- Regular price
- Sale price
- 11,920.00 ฿
- Regular price
- Sale price
- 11,920.00 ฿
- Regular price
- Sale price
- 3,112.00 ฿
ฟิตติ้งที่ถูกต้องของสูทผู้ชาย (Men’s Suit)
1. ความกว้างของไหล่
บริเวณบ่าและส่วนไหล่ไม่ควรจะแคบหรือกว้างจนเกินไป หากว่าไหล่แคบเกินไปจนเกิดรอยย่นหรือแน่นที่หัวแขน แปลว่าสูทตัวนั้นอาจจะเล็กจนเกินไป อาจทำให้การเคลื่อนไหวระหว่างวันอาจจะไม่สะดวกสบายเท่าที่ควร หัวแขนสูทผู้ชายควรจะทิ้งตัวลงมาเป็นธรรมชาติไม่ควรรัดแน่นที่หัวแขนผู้ใส่
2. ความยาวของแจ็คเก็ต
ความยาวแจ็คเก็ตส่งผลอย่างมหาศาลกับภาพรวมของสูทที่ใส่ และเป็นจุดที่หลายคนมองข้าม หากมองจากด้านหน้า ชายของเสื้อสูทผู้ชายควรบรรจบที่ต้นขา ประมาณระดับที่คลุมเป้ากางเกงได้พอดี หันมาสำรวจด้านหลัง ซึ่งปลายแจ็คเก็ตควรจะปิดคลุมบริเวณก้นพอดี ต่างจากการเลือกสปอร์ตโค้ท หรือเบลเซอร์ ซึ่งอาจจะยาวลงมาประมาณสะโพกเท่านั้น
3. ช่วงลำตัว
ไม่ควรจะแน่นจนเกิดรอยย่น (เกิดเป็นตัวอักษร X กลางลำตัวเมื่อกลัดกระดุม) หรือว่าหลวมจนไม่เห็นช่วงเว้าของเอว อย่าลืมว่าแจ็คเก็ตสูทผู้ชายมีหน้าที่เติมเต็มส่วนที่เราขาดหาย และอำพรางส่วนเกินที่ไม่พึงปรารถนา เพื่อช่วยให้ผู้ใส่ได้สัดส่วนและองศาที่ดูสง่า สูทที่ดีควรโอบรอบแนบไปกับลำตัวและปรากฏเส้นโค้งที่ลากลงมาจากวงแขนผ่านบริเวณเอวลงไปถึงปลายแจ็คเก็ต โดยไม่รัดแน่นจนการเอี้ยวตัวซ้ายขวา หรือขยับท่าทางต่างๆ เป็นเรื่องลำบาก
4. ช่องว่างระหว่างสูทกับเสื้อเชิ้ต
“Collar Gap” เกิดขึ้นเมื่อแจ็คเก็ตสูทไม่โค้งตามลักษณะแผ่นหลัง บ่า และท้ายทอยของผู้ใส่ อาจเกิดจากการตัดผ้าที่ทำชิ้นหลังของแจ็คเก็ต หรือการใส่สูทที่เล็กเกินไป ส่งผลให้สูทเสียสมดุล ปกของสูทควรจะแนบสนิท รับกับปกเชิ้ต ไม่ควรมีช่องว่าง สูทบางตัวที่เล็กเกินไปเวลาใส่ ช่วงปกสูทจะยกลอยขึ้น ไม่กอดแนบกับหน้าอกและช่วงคอของผู้ใส่
5. ความยาวแขนของแจ็คเก็ตสูท
ความยาวของแจ็คเก็ตที่ดีนั้น เสื้อเชิ้ตควรจะโผล่พ้นจากแขนเสื้อสูทผู้ชายประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร เคล็ดไม่ลับง่ายๆ ที่เราทำเองเป็นประจำคือ ตอนไปลองหรือซื้อสูทชุดใหม่ ให้ติดเสื้อเชิ้ตที่คิดว่าจะใส่กับสูทไปด้วยเสมอ
6. ทรงของกางเกง
กางเกงสูทไม่ควรจะ Skinny หรือ Slim มากจนรัดท่อนขา สิ่งที่ทำให้สูทผู้ชายสวยคือแนวเส้นต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งจะทำหน้าที่สอดคล้องกับธรรมชาติการทิ้งตัวของผ้า ทรงกางเกงที่รับกับรูปทรงของขาที่สุดก็คือทรง Tapered ซึ่งจะไล่ระดับความกว้างของขา ที่ค่อยๆ สอบแคบลงจรดข้อเท้านั่นเอง
7. สะโพกและต้นขา
ช่วงสะโพกและต้นขานั้นไม่ควรจะแน่นจนเกินไป เรากำลังพูดถึงวิธีเลือกกางเกงสูท หาใช่กางเกงยีนส์ ซึ่งไม่ต้องการความกระชับบริเวณโคนขา ปล่อยให้แพทเทิร์นของกางเกงทำหน้าที่สร้างรูปร่างรูปทรงที่ประณีต สะอาดตาจะดีกว่า ตอนที่ไปลองกางเกง ควรจะทดสอบด้วยการนั่งดูว่าช่วงสะโพกและต้นขาแน่นเกินไปไหม ซึ่งกางเกงที่มีจีบ ไม่ว่าจะจีบเดี่ยวหรือจีบคู่ก็ตาม เส้นจีบควรจะทิ้งตัวลงมาเป็นเส้นตรง
8. ความสูงของเป้ากางเกง
ความสูงของขอบเอวที่แนะนำจะอยู่พอดีกับสะดือหรือต่ำกว่าสะดือเล็กน้อย ไม่ควรใส่กางเกงที่เอวต่ำมากเกินไป จะทำให้สัดส่วนผู้ใส่ดูช่วงขาสั้นขึ้นมาทันที และยิ่งสวมคู่กับเสื้อสูทผู้ชายด้วยแล้ว จะสังเกตได้ทันทีว่า บาลานซ์ของชุดสูทและตัวผู้สวมใส่ผิดสัดส่วนกันอย่างเห็นได้ชัด และเราก็คงไม่ต้องพูดถึงความลำบากในการลุกนั่งที่จะเกิดขึ้นหากว่ากางเกงสูทเป็นแบบเอวต่ำ
9. ความยาวของกางเกง
ก่อนมองไปที่ความยาวขาเกงเกงสูทผู้ชาย ให้นึกถึงรองเท้าที่จะนำมาใส่คู่กับสูทชุดนี้ก่อน หากเป็นรองเท้าที่เป็นแบบสวมประเภท Loafers นั้น ขากางเกงไม่ควรจะยาวจนกองบนรองเท้า แต่ก็ไม่ควรร่นขึ้นมาจนลอยเผยตาตุ่ม ส่วนถ้าเป็นรองเท้าจำพวกที่มีเชือกผูกหรือ Lace-up นั้น ความยาวขากางเกงควรจะแตะที่รองเท้าพอดี จะ No break หรือ Half break อันนี้เป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคล เช่นเดียวกับการเลือกแจ็คเก็ตสูท ขอแนะนำให้ติดรองเท้าคู่ดังกล่าวไปด้วย เพื่อการคาดคะเนที่แม่นยำที่สุด
สูทผู้ชายรุ่น The Good Suit
สูทผู้ชาย (Men’s Suit) ในอุดมคติต้องมีทั้งความร่วมสมัยและเทคนิคการตัดเย็บที่ประณีต ตามแบบฉบับเทเลอร์ริงอันเคร่งครัดที่มีมาช้านาน ไม่มีผู้ชนะโดยเด็ดขาดระหว่าง “สูทสีกรมท่า” กับ “สูทสีดำ” (หากมีการโต้วาทีในหัวข้อนี้คงน่าติดตามชมทีเดียว) ฉะนั้นทั้งสองสีถือว่าเพียบพร้อมในฐานะสูทสามัญประจำตู้ ซึ่งเราแนะนำให้เลือกชุดหนึ่งเป็นแบบกระดุมแถวเดี่ยว (Single-Breasted) ปกธรรมดา (Notch Lapel) อีกชุดเป็นแบบกระดุมแถวคู่ (Double-Breasted) ปกชี้ขึ้น (Peak Lapel) ขึ้นอยู่กับสีที่ชอบและโอกาสในการใส่
The Good Suit สูทผู้ชายจาก Wardrobe Ministry ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใส่ใช้งานได้หลากหลาย โดยวิธีที่จะเพิ่มการใช้งานสูทที่อุตส่าห์ลงทุนไปให้คุ้มที่สุดอยู่ที่การเลือกเนื้อผ้า เพราะคุณจะสามารถใส่มันแบบแยกชิ้นได้ประหนึ่งมีกางเกงเดรสและเบลเซอร์เพิ่มอีกถึง 2 ชุด นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เราออกแบบ The Good Suit ให้สามารถใส่ได้แบบทั้งชุดในโอกาสทางการ หรือเรียกใช้งานแบบแยกชิ้นก็ดูดีถูกกาลเทศะ
สูทผู้ชาย (Men’s Suit) จาก Wardrobe Ministry ตัดเย็บด้วยผ้าวูลซุปเปอร์ 120s จาก Vitale Barberis Canonico โรงทอระดับตำนานอายุกว่า 300 ปีจากประเทศอิตาลี The Good Suit มีโครงสร้างที่เบาสบาย ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสวมใส่ในเมืองร้อน เสื้อสูทผู้ชายรุ่นนี้มีให้เลือกทั้งแบบกระดุมแถวเดียว และกระดุมสองแถว The Good Suit เป็นการผสมผสานระหว่างความสะดวกรวดเร็วของเสื้อผ้า Ready-To-Wear กับความเฉพาะเจาะจงของ Made-To-Measure ตอบโจทย์ความคุ้มค่าและประหยัดเวลาในการสั่งตัด ให้ The Good Suit เป็นสูทผู้ชายตัวโปรดที่คุณจะอยากหยิบมาใส่อยู่เรื่อยๆ
ทักซิโด้แจ็คเก็ตรุ่น The Dinner Jacket
ไม่มีอะไรนิยามความสง่าเหนือกาลเวลาได้เหมือนทักซิโด้ เครื่องแต่งกายที่ผู้คนต่างยอมรับในระดับสากลว่าเป็นเครื่องแบบทางการแห่งโลกสมัยใหม่ที่สุภาพบุรุษสวมใส่เป็นสักขีพยานในวาระสำคัญของชีวิต ทักซิโด้แจ็คเก็ต หรือในอีกชื่อหนึ่งว่า ดินเนอร์แจ็คเก็ต คือเครื่องยืนยันว่าสรรพสิ่งคลาสสิคทั้งหลายไม่เคยเรียกร้องให้ใครมาประดิษฐ์คิดค้นมันซ้ำสอง และถึงแม้มีใครบางคนท้วงว่าชุดสูทก็ทำหน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แต่จงเชื่อในความพิเศษที่เฉิดฉายอยู่ภายใต้รูปลักษณ์แห่งความเป็นชุดทักซิโด้ ในทรวดทรงองอาจยังเผยความละมุนละไม เราจึงสงวนมันไว้ให้กับช่วงเวลาที่ต้องการบันทึกไว้ในความทรงจำ
The Dinner Jacket ของเรามีให้เลือกสามแบบด้วยกัน แบบแรกเป็นเสื้อนอกสีขาวงาช้างที่ทอขึ้นจากส่วนผสมของสามเกลอแห่งฟอร์มอลแวร์ภาคฤดูร้อนอันได้แก่ วูล ลินิน และไหม ให้ผิวสัมผัสหรูหราเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยปกที่โค้งงุ้มได้รูป วาดเส้นสายรับกับโค้งเว้าของกรอบแจ็คเก็ตอย่างลงตัว สง่างามและสุขุมอยู่ในที ตัวเลือกที่สองสำหรับ The Dinner Jacket มาในผ้าวูลสีดำสนิทที่ตัดกับปกทรงกว้างผ้าซาตินสีน้ำตาลเข้มขมบนโครงสร้างกระดุมสองแถว สุภาพคลาสสิคในทรวดทรงที่เฉียบคม และล่าสุดในกลุ่มเป็นแบบปกช้อนกระดุมสองแถว ผ้าวูลผสมลินิน ขาวนวลและงามจรัส ละม้ายคล้ายดินเนอร์แจ็คเก็ตจากภาพยนตร์คลาสสิค Casablanca (1942) ต่างสไตล์แต่จุดหมายเดียวกัน คือรับใช้คุณอย่างซื่อสัตย์ในวันที่บัตรเชิญระบุคำว่า “แบล็ค-ไท”
สวมใส่เข้าชุดพร้อมกับเสื้อเชิ้ตทักซิโด้ที่ประดับปลายแขนด้วยคัฟลิงค์เม็ดงาม โบว์ไท และรองเท้าสวมแบบโอเปร่าหนังแก้วหรือสลิปเปอร์กำมะหยี่เนื้อนวลสักคู่ เป็นอันเสร็จพิธีกรรมแต่งองค์ทรงเครื่องแบบฉบับฟอร์มอลแวร์ที่ทั้งคุณและผู้พบเห็นเป็นต้องจดจำ
เบลเซอร์รุ่น The Good Blazer มาพร้อมกางเกงรุ่นยอดนิยมในเนื้อผ้าเดียวกัน
เบลเซอร์ผู้ชายมาดนิ่งดีไซน์เจนจัดของเราถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใส่ใช้งานได้อย่างสันทัดทุกสถานการณ์ พร้อมรับผิดชอบทุกระดับความหล่อของผู้ชายไม่ว่าจุดหมายจะเป็นห้องประชุม ร้านอาหาร ออกเดทหรือนัดสำคัญใดๆ
ตัวแจ็คเกตเป็นแบบกระดุมแถวเดี่ยว 3/2 โครงสร้างแคนวาสแบบครึ่งตัว คัทติ้งพอเหมาะพอดี โอบผู้สวมใส่แบบไม่อึดอัด อุดมไปด้วยดีเทลน้อยใหญ่ อาทิ รังดุมปลายแขนเสื้อที่ใช้งานได้จริง ส่วนของกระเป๋าเสื้อมีให้เลือก 2 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นกระเป๋าคู่รูปแก้วไวน์แบบ patch pocket หรือรุ่นกระเป๋าคู่แบบมีฝาปิด ใส่เข้าคู่กับ Signature Trouser, 968 Trouser และ Lata Trouser กางเกงขายาวของเราที่มาในเนื้อผ้าเดียวกันได้อย่างลงตัว
เบลเซอร์กระดุมสองแถวรุ่น The Landmark Blazer
หัวใจของเบลเซอร์กระดุมสองแถวสักตัวอยู่ที่การกำหนดสัดส่วนและองศาที่สมบูรณ์แบบให้กับเส้นตรงทแยงและแนวขอบโค้งรอบตัวที่วาดทรวดทรงของเสื้อนอกกระดุมแถวคู่รายการดังกล่าว สมการนี้ทำให้เสื้อสูทกระดุมสองแถวหรือ “DB” เป็นเจ้าของบุคลิกที่ไม่เหมือนเสื้อนอกแบบอื่น เป็นความองอาจที่เจือความอ่อนช้อย โดดเด่นอย่างมีศิลป์และกาลเทศะ
เบลเซอร์ผู้ชายรุ่น The Landmark Blazer เริ่มจากรูปแบบกระดุมสองแถวที่คลาสสิค กับเชิงบ่าที่เสริมแผ่นรองได้รูป ไปจนถึงทรงของปกที่กว้างและทำมุมอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เบลเซอร์รุ่นนี้จึงเป็นเสื้อนอกที่ควรค่าแก่การรับมาโอบลำตัวดูสักครั้ง โครงสร้างภายในบุแคนวาสครึ่งตัว ซับในเนื้อ cupro สีสุขุมที่มีคุณสมบัตินุ่มลื่นและเย็นสบายเมื่อสวมใส่ กระดุมปลายแขนเสื้อแบบใช้งานได้จริงเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบที่ปลายข้อมือ แต่งออกงานสำคัญพร้อมเสื้อเชิ้ตและใส่เข้าคู่กับกางเกงขายาวรุ่นยอดนิยมของเราอย่าง Signature Trouser และกางเกงขายาวรุ่นใหม่ในชื่อ Lata Trouser
เบลเซอร์กระดุมแถวเดียวสไตล์โรมันรุ่น The Roman Blazer
สูทแบบฉบับกรุงโรมซึ่งเป็นที่นิยมในช่วงกลางของศตวรรษที่ 20 ได้รับการขนานนามว่าเป็นมรดกตกทอดจาก “ตำรามิดเซนจูรี่เทเลอริ่ง” ที่ถูกทิ้งไว้สักแห่งบนถนนสายคลาสสิคเมนส์แวร์เมื่อนานมาแล้ว ความแยบยลของสูทสไตล์โรมันถูกสะกดอยู่ในเส้นสายและสัดส่วนที่เฉียบคม แลดูมีชั้นเชิงแบบไม่เอิกเกริก เป็นดีไซน์จากอดีตที่บอกเล่าความสง่าอมตะแบบคอนติเนนทัลได้เป็นอย่างดี
ในวันนี้ สูทสไตล์โรมันถูกนำกลับมาทบทวน พร้อมหวนคืนสู่ตู้เสื้อผ้าบุรุษในยุคที่ความเคร่งครัดของการจำแนกแจกแจงประเภทชุดสูท และความหมายของการใส่สูทได้รับการผ่อนผัน ประหนึ่งเป็นการค้นพบครั้งใหม่ เพื่อจุดประสงค์ใหม่ เหมาะเจาะกับช่วงเวลาสำหรับโรมันเทเลอริ่งจากโลกเก่า
ล่าสุดจากห้องสูทของเรา The Roman Blazer เป็นการออกแบบที่ขานรับกับเสื้อนอกทรงหล่อแบบดังกล่าว สอดคล้องและมองไปในทางเดียวกับการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน เริ่มจากปกแหลมแบบ peak lapel ที่ทำมุมเฉียงชี้พอดีองศา ปกกว้างผายม้วนโค้งได้รูป เนื้อผ้าและหางม้าทิ้งน้ำหนักอย่างสามัคคีลงบนหน้าอกให้ดูสง่าผ่าเผย วาดเส้นลงมาบรรจบกันตรงกระดุมเม็ดบนที่กลางลำตัว หัวไหล่ขึ้นรูปชัดเจน มองภายนอกเห็นทรวดทรงสะอาดเรี่ยมและร่วมสมัย ภายในสวมใส่สบายด้วยสัมผัสเรียบเนียนของซับในเย็นที่บุอย่างประณีตตลอดทั้งตัว
เช่นเดียวกับแจ็คเก็ตแบบอื่นๆ ของเรา The Roman Blazer ถูกออกแบบมาให้สามารถจับคู่กับกางเกงเป็นสูทยกชุดหรือสวมแยกชิ้นได้ตามปรารถนา ในบางโอกาสยังลดทอนความฟอร์มอลได้โดยแทนที่ด้วยกางเกงผ้ารีดจีบหรือยีนส์ทรงเข้ารูปตัวโปรด